HIDDEN GEMS SERIES EP.1 : ดุกมั้ง (DukeMunk) ข้าวหน้าปลาดุกย่างถ่าน

ตั้งแต่ทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาด Covid-19 ทำให้หลายคนต้องเจอกับปัญหาถูกเลิกจ้าง ธุรกิจใหญ่น้อยต้องปิดตัวลง ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของธุรกิจร้านอาหารสไตล์ homemade หรือ food delivery มากขึ้น เพราะไม่ว่าสถานการณ์จะแย่ขนาดไหน เราทุกคนก็ยังต้องบริโภคอาหารอยู่ทุกวัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราไปเจอร้านอาหารร้านหนึ่งที่เมนูไม่เหมือนใคร อร่อย และราคาย่อมเยาว์ จะเป็นร้านอะไร อยู่ไหน อะไร ยังไง ลองติดตามอ่านกันนะคะ😉

ร้านนี้ต้องยกให้เป็น hidden gem เลยจริงๆ ด้วยความโดดเด่นหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็น concept ร้าน บรรยากาศร้าน และที่พลาดไม่ได้คือเมนูของร้านนี้ บอกเลยว่าเด็ดมากและมั่นใจว่าหลายคนไม่เคยกินมาก่อนแน่นอน เพราะขนาดเราเองก็ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน ที่นี่คือที่แรกในชีวิตเลยจริงๆ

ถ้าอยากรู้ว่ามันดียังไง มันขนาดเป็น hidden gem ได้เลยหรอ อยากรู้ก็ต้องอ่านให้จบนะ 😉👌

เจ้าของร้าน 'ดุกมั้ง' DunkMunk

Hidden Gems Series Ep.1 จะมาแนะนำร้าน 'ดุกมั้ง (Duke Munk)' แค่ชื่อก็งงแล้ว ว่าทำไมต้องชื่อนี้!?

ตอนเห็นชื่อร้านครั้งแรก คือต้องถามเจ้าของร้านเลยว่าทำไมต้อง 'ดุกมั้ง'

ก่อนอื่นเจ้าของร้านชื่อ 'ดอกฝิ่น' แค่ชื่อก็เท่แล้ว ทีนี่มาถึงชื่อร้าน 'ดุกมั้ง (Duke Munk)' เจ้าของร้านบอกว่าใช้ชื่อนี้เพราะเจ้าของเค้าเพิ่งไปบวชมาและชอบกินปลาดุกมาก และร้านก็ขายปลาดุกเลยใช้ชื่อนี้ ตรงๆเลยไม่อ้อมค้อม ก็เก๋ดี เจ้าของยังบอกอีกว่าร้านนี้เกิดขึ้นเพราะเค้าเองชอบทานข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุนเป็นทุนเดิม แต่ราคาค่อนข้างแพงเลยทานได้ไม่บ่อย ประกอบกับเขาชอบทานปลาดุกอยู่แล้วด้วย เลยคิดว่าเนื้อของปลาไหลญี่ปุ่น และ ปลาดุกไทย มีความคล้ายคลึงกันมากเลยลองทำดู ผลลัพธ์คืออร่อยมาก และที่สำคัญต้นทุนถูกกว่าปลาไหลมาก ไอเดียเมนูของร้านจึงเกิดขึ้น

เมนูของทางร้านจะใช้ปลาดุกเป็นวัตถุดิบหลักในทุก ๆ เมนู แต่จะต่างกันที่ซอสสูตรต่าง ๆ ที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านเอง ความพิเศษอีกอย่างคือ วิธีการและขั้นตอนการทำของทางร้านค่อนข้างละเอียดและพิถีพิถัน เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ปลาไหลญี่ปุ่น เจ้าของร้านก็ใช้ขั้นตอนการทำ ตั้งแต่การล้าง แล่ปลา แม้กระทั่งดึงก้างออก ตามแบบฉบับของการทำปลาไหลญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ขั้นตอนการปรุงและหมักก็พิเศษไม่แพ้กัน 'ตะไคร้ ' เป็นสมุนไพรหลักของทางร้านที่ใช้หมักปลา หรือแม้กระทั่งน้ำซอส สูตร signature ของทางร้าน คือ 'โชยุตะไคร้ ' รสชาติกลมกล่อมและหอมตะไคร้ แถมยังดีต่อสุขภาพด้วย ไม่เพียงเท่านี้ความโดดเด่นอีกอย่าง คือ ทางร้านใช้เตาถ่านในการย่างปลา ทำให้ปลาได้ความหอมสโมกกี้จากตัวถ่าน นอกจากนี้แล้วทางร้านก็ยังมีเมนูแบบปิ้งและทอดอีกด้วย บอกเลยว่าเด็ดไม่แพ้กัน

ร้านนี้เค้าเปิดมาได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว โดยร้านเริ่มขายจากข้าวกล่องแบบ delivery มาก่อนในช่วงแรก และเพิ่งมาขยายเปิดให้นั่งทานที่ร้านได้ โดย concept ร้านคือ ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นและจำกัด 8 คนต่อวัน เนื่องจากเจ้าของร้านทำทุกอย่างเองทั้งหมด เลยรับลูกค้าแบบจำนวนจำกัด เพื่อคงรสชาติ คุณภาพในการทำอาหาร และการบริการลูกค้าได้อย่างเต็มที่และทั่วถึง

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลที่เราได้คุยกับเจ้าของร้านตอนที่ไปนั่งทานที่ร้าน ส่วนตัวคือชอบหลายๆ อย่างของร้านนี้

อย่างแรกเลย คือ อาหาร ด้วยความแปลกใหม่ เช่น ตัวปลาดุกมันจะมี character ของตัวเอง ซึ่งมันแตกต่างกับปลาไหลญี่ปุ่น แต่มันทดแทนกันได้ เอ๊ะ! พูดแบบนี้เข้าใจมั้ยนะ ฮ่าๆๆ ส่วนตัวตั้งแต่ทานข้าวหน้าปลาดุกของร้านนี้ รู้สึกว่าชอบข้าวหน้าปลาไหลน้อยลง เพราะคิดว่าตัวปลาไหลมันจะมีความมันเยอะกว่ามาก จึงทำให้รู้สึกเลียนง่าย และตัวเนื้อของปลาไหลมันจะเละกว่าปลาดุก ที่มีความฟู นุ่มและหนึบมากกว่า และที่สำคัญมาก คือ ไม่มีก้างเลย ทานได้อย่างสบายใจ เมนูที่เราชอบมากที่สุด คือ ข้าวหน้าปลาดุกย่างถ่าน ซอสโชยุตะไคร้ และ ข้าวหน้าปลาดุกกระเทียม

อย่างที่สอง คือ บรรยากาศและความเป็นกันเองของร้าน ด้วยความที่ร้านเป็นร้านเล็ก ๆ บ้าน ๆ อยู่ใจกลางย่านสุขุมวิท (ทองหล่อ-เอกมัย) แต่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านต่างจังหวัด โดยเฉพาะคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากแสงสี nightlife ของคนเมือง ขอแนะนำร้านนี้เลย พร้อมกับเจ้าของร้านก็มีความเป็นกันเอง ด้วยความที่ร้านเค้ามีโซนเคาน์เตอร์บาร์ เราก็สามารถทานไป คุยกับเจ้าของร้านไป และก็ดูเค้าทำอาหารไปด้วยพร้อมๆกัน มีเพลงชิล ๆ เปิดคลอ ๆ นั่งชิลได้เรื่อย ๆ

อย่างที่สาม คือ ราคา จะว่าไปอาหารที่นี่ก็เรียกได้ว่าเป็นอาหารออกแนวฟิวชั่นเล็ก ๆ ใช้วัตถุดิบคุณภาพ สะอาด ปริมาณเหมาะสมกับราคา และที่สำคัญอร่อยจริง ราคาก็เป็นราคาที่จับต้องได้สำหรับคนในทุก ๆกลุ่มเลยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา จนไปถึงวัยทำงาน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ก็ได้อิ่มท้องสบายกระเป๋ากันได้

เอาหล่ะบรรยายมาเยอะขนาดนี้แล้วคงอยากรู้พิกัดของร้านและรายละเอียดปลีกย่อยกัน รวมถึงภาพบรรยากาศร้านกันแล้วใช่มั้ย ติดตามดูข้อมูลต่าง ๆ และภาพด้านล่างนะจ้ะ

Menu & Location

ข้าวหน้าปลาดุกย่างถ่าน ซอสโชยุตะไคร้และซอสจิ้มแจ่ว

ข้าวหน้าปลาดุกทอดกระเทียม

ภาพบรรยากาศร้านโดยรวม

ชื่อร้าน: ดุกมั้ง (DukeMunk)

ที่ตั้งร้าน: https://goo.gl/maps/2EeH12PBGHoCs8Ty5 (สุขุมวิท 65)

ราคา: เริ่มต้น 29 - 159 บาท

ที่จอดรถ: ไม่มีที่จอดรถ แนะนำให้นั่งแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซต์รับจ้างค่ะ

ติดต่อสำรองที่นั่ง: FB และ IG -- dukemunk

เงื่อนไขการจอง:

- จองล่วงหน้าเท่านั้น (booking only)

- แบบเดลิเวอรี่สั่งล่วงหน้า 1 วัน (delivery 1 day in advance)

วันและเวลาบริการเปิด-ปิด:

Mon. - ร้านปิดทุกวันจันทร์ (closed on Monday)

Tue. - 18.00 - 22.00*

Wed. - 18.00 - 22.00*

Thu. - 18.00 - 22.00*

Fri. - 18.00 - 22.00*
หมายเหตุ - *เนื่องจากสถาณการณ์โควิด-19 ช่วงนี้เวลาปิดร้านอาจเป็นไปตามที่รัฐบาลประกาศ ดังนั้นรบกวนเช็คกับทางร้านอีกครั้ง 

สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณและฝากข้อมูลดีดีที่เราตั้งใจเขียนขึ้นมา เพื่อแชร์ประสบการณ์ดีดีให้กับเพื่อน ๆและผู้อ่านทุกคนได้อ่านกัน หากใครสนใจแล้วได้ไปลองทานที่ร้านหรือสั่งเดลิเวอรี่ ก็ลองเข้ามาคอมเม้นหรือแชร์ประสบการณ์กับเราผ่านทาง blog นี้ได้เลยนะคะ ช่วงนี้ก็ดูแลสุขภาพกันด้วยเช่นเคยนะคะ การ์ดเราไม่ตก จะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติกันได้อย่างเร็ววัน แล้วพบกันใหม่ใน hidden gems series Ep.2 จ้าา 👋👋

- B -